รู้จักกับ SME


รู้จักกับ ธุรกิจ SME

เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะคุ้นหูกับคำว่า ธุรกิจ SME ว่ามันคืออะไร? และมีความสำคัญขนาดไหน?
SME ย่อมาจาก Small and Medium Enterprises หรือในชื่อภาษาไทยก็คือ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, ดังนั้น ธุรกิจ SME คือ ธุรกิจกิจการที่แสวงหาผลกำไรขนาดกลางและขนาดย่อมนั่นเอง.

ธุรกิจหรือกิจการอะไรบ้างที่จัดอยู่ในกลุ่มของ ธุรกิจ SME?

ธุรกิจ SME ได้ครอบคลุมถึงกิจการอยู่ 3 กลุ่มหลักๆ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมรัฐวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2543คือ

1.การผลิต (Production)

ธุรกิจ SME ในการผลิตหมายความถึงกิจการที่มีการแปรรูปวัตถุดิบทั้งการเกษตร, อุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมโรงโม่หิน, เหมืองแร่ เป็นต้น.

2.การค้า (Trading)

ธุรกิจ SME ในกลุ่มของการค้าจะรวมทั้งการค้าส่ง (Wholesale) และการค้าปลีก (Retail) ที่ดำเนินกิจการในลัฏษณะของการซื้อมา-ขายไป ไม่มีการผลิตหรือแปรรูปวัสดุ.

3.การบริการ (Service)

ธุรกิจการบริการ เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องมีการแปรรูปวัตถุดิบหรือผลิตสินค้า แต่จะเป็นการให้บริการแทน ซึ่งจากลักษณะของของธุรกิจ SME กลุ่มนี้จะครอบคลุมและแทรกอยู่ในธุรกิจหลายๆ กลุ่มด้วยกัน เช่น ธุรกิจขนส่งซึ่งมีมูลค่าสูงสุดในกลุ่มของธุรกิจบริการ จะเห็นว่า ธุรกิจ SME กลุ่มของการผลิตและกลุ่มการค้าต้องอาศัยกลุ่มธุรกิจบริการในการขนส่งทั้งวัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์. นอกจากนี้ธุรกิจ SME อีกอย่างที่สร้างรายได้มากมายในแต่ละปีคือ ธุรกิจการท่องเที่ยว, บริการด้านการศึกษา และบริการด้านการเงิน ตามลำดับ.

เราจะแบ่งธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอย่างไร?

ธุรกิจ SME ขนาดกลางและขนาดย่อมจะใช้หลักเกณฑ์ของมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรและจำนวนแรงงานในการแบ่งแยกซึ่งจะแตกต่างตามกลุ่มของธุรกิจ SME ด้วยเช่นกัน ดังนี้

ภาคธุรกิจ SME
ธุรกิจขนาดกลาง
ธุรกิจขนาดย่อม
ขนาดสินทรัพย์ถาวร
จำนวนการจ้างงาน
ขนาดสินทรัพย์ถาวร
จำนวนการจ้างงาน
ภาคการผลิต
ไม่เกิน 200 ล้านบาท
ไม่เกิน 200 คน
ไม่เกิน 50 ล้านบาท
ไม่เกิน 50 คน
ภาคการค้า




1)      ค้าส่ง
ไม่เกิน 100 ล้านบาท
ไม่เกิน 50 คน
ไม่เกิน 50 ล้านบาท
ไม่เกิน 25 คน
2)      ค้าปลีก
ไม่เกิน 60 ล้านบาท
ไม่เกิน 30 คน
ไม่เกิน 30 ล้านบาท
ไม่เกิน 15 คน
ภาคบริการ
ไม่เกิน 200 ล้านบาท
ไม่เกิน 200 คน
ไม่เกิน 50 ล้านบาท
ไม่เกิน 50 คน

ความสำคัญของธุรกิจ SME

ถึงแม้ว่าธุรกิจ SME จะเป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แต่ความสำคัญก็ไม่น้อยไปกว่าธุรกิจขนาดใหญ่เลยทีเดียว ตามที่เราจะเห็นว่าหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างให้ความสำคัญและส่งเสริมธุรกิจ SME อยู่อย่างต่อเนื่อง นั่นก็เป็นเพราะว่าธุรกิจ SME มีความสำคัญดังนี้

1.ธุรกิจ SME เป็นการเริ่มต้นของธุรกิจขนาดใหญ่

ธุรกิจขนาดใหญ่ หลายๆ กิจการล้วนแต่เริ่มต้นด้วยการเป็นธุรกิจ SME อาจจะเพราะว่าเหตุผลด้านเงินทุนที่ต้องเริ่มกิจการการด้วยขนาดเล็กก่อนและค่อยๆ ขยายทีหลัง หรือการทดลองดำเนินกิจการเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งหลังจากที่กิจการมีความเจริญเติบโต มียอดขายและยอดผลิตที่สูงขึ้นทำให้ต้องมีการปรับขนาดของกิจการ เพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มการลงทุนมากขึ้นกลายเป็นกิจการขนาดใหญ่ในที่สุด

2.ธุรกิจ SME เป็นการช่วยสร้างงานและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน

ด้วยลักษณะของธุรกิจ SME ที่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ทำให้การเริ่มต้นกิจการสามารถทำได้ไม่ยากเท่าไหร่ ทำให้มีธุรกิจ SME เกิดขึ้นมามากมาย โดยเฉพาะภาคการเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลักคนส่วนใหญ่ในประเทศไทย จึงเกิดการสร้างงานและกระจายรายได้อย่างกว้างขวาง ซึ่งส่งผลดีต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมของประเทศไทย.

3.ธุรกิจ SME เป็นการสร้างโอกาสให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ

หลายๆ คนมีไอเดียที่ที่จะสร้างผลิตภัณฑ์แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง แต่ในปัจจุบัน Social Network เข้ามาแพร่หลาย ทำให้คนที่มีแนวคิดเดียวกันหรือคล้ายๆ กันมีการรวมกลุ่มกันสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามแนวคิดใหม่ๆ จึงทำให้เกิดความหลากหลายของผลิตภัณฑ์จึงส่งผลดีทางด้านการตลาดเป็นอย่างมาก

0 comments:

Post a Comment